ฟอเรสต์คว้าตัวโมเรโน่ แบ็คซ้ายจากวิลล่า มาร่วมทีมแบบยืมตัว

ฟอเรสต์คว้าตัวโมเรโน่ แบ็คซ้ายจากวิลล่า มาร่วมทีมแบบยืมตัว

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ประสบความสำเร็จในการเสริมทัพด้วยการคว้าตัว อเล็กซ์ โมเรโน่ (Alex Moreno) แบ็คซ้ายจาก แอสตัน วิลล่า มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล พร้อมเงื่อนไขในการซื้อขาดถาวร การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวรับของ ฟอเรสต์ อย่างมีนัยสำคัญ

กองหลังชาว สเปน วัย 31 ปี ซึ่งเคยเป็นตัวเลือกแรกของ วิลล่า ได้ตกไปอยู่ในอันดับรองจากผู้เล่นใหม่อย่าง เอียน มาตเซน (Ian Maatsen) และ ลูคัส ดีญเญ่ (Lucas Digne) ในการจัดลำดับตัวจริงที่ วิลล่า ปาร์ค ทำให้เขาต้องมองหาโอกาสในการลงสนามที่มากขึ้นกับทีมอื่น

โมเรโน่ (Moreno) ย้ายมาร่วมทีม วิลล่า จาก เรอัล เบติส ใน ลาลีกา เมื่อเดือนมกราคม 2023 ด้วยค่าตัว 13.2 ล้านปอนด์ และเป็นนักเตะคนแรกที่ อูไน เอเมรี่ (Unai Emery) ดึงมาร่วมทีมหลังจากเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม วิลล่า น่าสนใจที่ว่า ก่อนหน้านี้ โมเรโน่ (Moreno) เคยมีข่าวเชื่อมโยงกับ ฟอเรสต์ มาก่อน แต่ท้ายที่สุดเขาเลือกย้ายไปอยู่กับ วิลล่า

ในฤดูกาลที่ผ่านมา โมเรโน่ (Moreno) ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 21 นัด และมีส่วนสำคัญในการพา วิลล่า จบอันดับที่ 4 ของตาราง ซึ่งทำให้ทีมได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันใน แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ผลงานของเขาในฤดูกาลที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อ ฟอเรสต์ ในการต่อสู้เพื่อรักษาอันดับใน พรีเมียร์ลีก และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรโมชั่น แทงบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

รอสส์ วิลสัน (Ross Wilson) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายฟุตบอลของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แสดงความยินดีกับการเซ็นสัญญาครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “อเล็กซ์ (Alex) เป็นนักเตะที่เราสนใจมานานแล้ว ดังนั้นเราทุกคนจึงมีความสุขมากที่ได้เห็นเขามาถึง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เขามีประสบการณ์มากมายทั้งใน ลาลีกา และ พรีเมียร์ลีก และเขาจะนำคุณภาพและประสบการณ์ทั้งหมดนั้นมาสู่ทีมของเราในตอนนี้”

การย้ายทีมของ โมเรโน่ (Moreno) มาสู่ ซิตี้ กราวด์ ไม่เพียงแต่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวรับของ ฟอเรสต์ เท่านั้น แต่ยังเพิ่มตัวเลือกที่มีประสบการณ์ให้กับผู้จัดการทีม นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต (Nuno Espírito Santo) ในการวางแผนทางยุทธวิธีสำหรับเกมที่สำคัญๆ ที่จะมาถึงในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่ากองหลัง โจ วอร์รัลล์ (Joe Worrall) ดูเหมือนจะกำลังจะออกจาก ฟอเรสต์ โดยมีทีม เบิร์นลีย์ จาก แชมเปี้ยนชิพ กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาขั้นสูงเพื่อคว้าตัวนักเตะวัย 27 ปีรายนี้ การย้ายออกของ วอร์รัลล์ (Worrall) อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างทีมของ ฟอเรสต์ เพื่อสร้างพื้นที่และงบประมาณสำหรับการเสริมทัพเพิ่มเติมในอนาคต

การเสริมทัพด้วย โมเรโน่ (Moreno) แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมเพื่อต่อสู้ในการรักษาสถานะใน พรีเมียร์ลีก ประสบการณ์ของเขาทั้งใน สเปน และ อังกฤษ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับความกดดันในช่วงท้ายฤดูกาล

นอกจากนี้ การย้ายทีมครั้งนี้ยังอาจเป็นโอกาสสำหรับ โมเรโน่ (Moreno) ในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งใน พรีเมียร์ลีก และอาจนำไปสู่การย้ายทีมแบบถาวรหากเขาสามารถแสดงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมให้กับ ฟอเรสต์ ได้

แฟนบอล น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คงจะตื่นเต้นที่จะได้เห็น โมเรโน่ (Moreno) ลงสนามในชุดของทีม และหวังว่าเขาจะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผลงานของทีมได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทีมพยายามที่จะปรับปรุงตำแหน่งของพวกเขาในตาราง พรีเมียร์ลีก
วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรโมชั่น แทงบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ป้ายต่อไปของ โรนัลโด้

ป้ายต่อไปของ โรนัลโด้

ถือว่าเป็นข่าวที่ค่อนข้างมีมูลความจริงเลยทีเดียว สำหรับยูเวนตุสหลังจากตกรอบ UCL ตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็กำลังจะมีข่าวว่าอาจจะต้องเลหลังนักเตะบางคนออกไปเพื่อระบายค่าเหนื่อย ทีมได้รับผลกระทบด้านการเงินจากวิกฤติโควิท โรนัลโด้ ก็เลยอาจจะเป็นคนหนึ่งที่โดนขายออกไปเพื่อลดภาระค่าเหนื่อย ว่าแต่หากโรนัลโด้ ย้ายจริง เค้าจะไปไหนได้บ้าง

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

หากจะต้องย้ายทีมกันจริง ทีมเดียวในโลกใบนี้ที่เรามองว่าสามารถสนับสนุนความต้องการของโรนัลโด้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็น เงินค่าเหนื่อย, การเล่นฟุตบอล, และวิถีชีวิตนอกสนามที่ไม่ลำบากจนเกินไป ก็คงต้องเป็น ปารีส เท่านั้น เรื่องเงินไม่ยาก มีเยอะ เรื่องฟุตบอลเราจะได้เห็นการประสานงานของ โรนัลโด้, เนย์มาร์, เอ็มปับเป้, อิคาร์ดี้ แค่คิดก็สยองแทนฝ่ายตรงข้ามแล้ว ชีวิตที่ย้ายจากอิตาลี มาฝรั่งเศส มันก็คงไม่ได้แตกต่างกันเท่าไร

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หากจะกลับเกาะอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงเป็นจุดหมายเดียวที่โด้ จะได้กลับมา เรื่องค่าเหนื่อยเราว่าพอสู้ไหว (แต่อาจจะไม่เท่าที่เค้าต้องการ) แต่ว่าเรื่องฟุตบอลนี่พูดยาก เพราะว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เป็นทีมที่มีองค์ประกอบพร้อมสักเท่าไรนัก การมาของโด้ หากหวังจะได้แชมป์อาจจะต้องลุ้นกันเหนื่อยโดยเฉพาะ UCL ที่แมนยูตอนนี้ยังห่างไกลทีมระดับท็อปของยุโรปเยอะเลย แม้ทุกคนจะมองว่า เค้าคือฮีโร่ในตำนานแต่คงไม่มีใครอยากให้ตำนานมาเสียชื่ออีกรอบที่นี่อย่างแน่นอน

อินเตอร์ ไมอามี่

เป้าหมายสุดท้ายที่หลายคนมองว่าไม่น่าจริง แต่ว่าความจริงก็พอมีโอกาสอยู่บ้างก็คือ อินเตอร์ ไมอามี่ของ เดวิด เบ็คแฮม หากโด้ย้ายไปในช่วงอายุนี้ ก็ทำให้เค้ายังสามารถเล่นฟุตบอลด้วยศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้อย่างสบายๆ อีกทั้งยังเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับตัวเค้าเองอีกด้วย อีกทั้งเจ้าตัวยังเคยแย้มๆว่าสนใจการข้ามไปเล่นที่สหรัฐอีกต่างหาก ถ้าไปจริงน่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเมเจอร์ลีคซอคเกอร์ได้อีกเยอะเลย บวกกับการใช้ชีวิตนอกสนามของเค้าน่าจะสะดวกสบาย ปรับตัวไม่ยากเท่าไร

เจาะประเด็นความห่วยแตก แมนยู เกมแพ้ไลป์ซิก

เจาะประเด็นความห่วยแตก แมนยู เกมแพ้ไลป์ซิก

หากจะถามว่า มันห่วยแตกแค่ไหน คงตอบได้เลยว่า มาก สำหรับเกมที่แพ้ไลป์ซิก ตกรอบ UCL จากในมือตัวเองแท้ๆเลย อย่างไรก็ตามหากมองให้ดี เกมนี้มีหลายจุดที่ความห่วยแตกมาผสมกัน จนกลายเป็นผลการแข่งขันแบบนี้ ส่วนที่ยิงได้ 2 ประตูบอกตามตรงว่า ไม่ได้มาจากแท็คติอะไรเลย มาดูความห่วยแตกของเกมนี้กันหน่อย

เล่นอุดแบบรอโดน

อย่างแรกเลย ก่อนเกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าได้เปรียบทางไลป์ซิก อยู่พอสมควรเนื่องจากว่าพวกเค้ามีแต้มมากว่า นั่นทำให้ขอเพียงแค่เสมอก็จะเข้ารอบต่อไปได้เลย ว่าแล้ว โซลชาร์ก็เลือกแท็คติค รับแบบไม่สวนกลับ หรือพูดภาษาบ้านเราว่า อุดแล้วรอโดน คำถามก็คือ หากกุนซือเป็น มูรินโญ่ อุดแล้วเราเชื่อว่าไม่รอโดน มีสวนกลับ หรือหากจะอุดให้สุด มันอุดเต็มเกม เสมอ 0-0 ได้แน่นอน แต่ไม่ใช่ไง มันคือ โซลชาร์ พอมาใช้วิธีนี้ ไลป์ซิก ก็นวดเพลินมันมือกันเลยทีเดียว แล้วอุดยังไง ครึ่งแรกโดน 3-0 แบบนี้เปิดหน้าสู้ดีกว่า

กองหน้า เห็นแก่ตัว

เกมนี้มองไปที่ความผิดพลาดส่วนบุคคลมีเยอะมากเลย เกมรับหลายคนเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่เกมรุกเองก็ต้องโดนตำหนิด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะสองกองหน้าอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด ที่เข้าลูปจังหวะนรกทั้งคู่ จังหวะจ่ายพี่แกเลี้ยง ยิงติด จังหวะควรยิงก็ไปจ่ายแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย นั่นทำให้จังหวะที่เค้าควรจะได้ประตู หรือทำอะไรมากกว่านี้ กลายเป็นไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับทีมเลย น่าเสียดายมาก

เปลี่ยนตัวแบบงงกันทั้งโลก

แต่อีกหนึ่งความห่วยแตก ที่เชื่อว่าแฟนบอลคงงงกันทั้งโลก ว่าพี่เค้าทำได้ไง ก็คือ การเปลี่ยนตัวของโซลชาร์ที่ทุกคนเข้าไม่ถึง ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนพักครึ่งเปลี่ยน ฟานเดอบีค ลงมาอันนี้เข้าใจได้เพราะว่าต้องการประตูคืน แต่เคสเปลี่ยน ลุค ชอว์ ออกนาทีที่ 61 แล้วแทนที่ด้วยแบรนดอน วิลเลี่ยม อันนีก็เข้าใจได้ แต่ว่าการเปลี่ยนกองหลังอีกสองคนลงไปในนาทีที่ 78 ในสถานการณ์ที่ต้องการประตู มันคืออะไร อันนี้ห่วยจริง

ภาพรวมประจำซีซั่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ภาพรวมประจำซีซั่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

รูดม่านปิดซีซั่นไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ พรีเมียร์ลีค ในรอบซีซั่นที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าแฟนบอลปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีทั้งสุข เศร้า เหงา ซึม ตามวิถีของแฟนบอล คราวนี้เรามาดูกันว่าภาพรวมประจำซีซั่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง

เทพเกมเยือน + เทพคัมแบ็ค

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้หากจะนิยามอะไรสักอย่าง คงเป็นคำว่า เทพเกมเยือนอย่างแน่นอน เพราะว่าตลอดซีซั่นเกมเยือนทั้งหมด 19 เกม พวกเค้าไม่แพ้เลยสักเกมเดียว เตรียมขึ้นแท่นเป็นทีมที่เล่นเกมเยือนได้ดีที่สุดตลอดกาล หากรักษาฟอร์มเกมเยือนได้ในซีซั่นหน้าอีก 1-2 เกมเท่านั้นเอง อันนี้ต้องยอมรับว่าพวกเค้าทำได้ดี

อีกหนึ่งเรื่องที่แฟนบอลอุ่นใจมาก นั่นก็คือ เทพคัมแบ็ค ซีซั่นนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่โดนนำไปก่อนแล้วกลับมาชนะได้มากครั้งที่สุด เป็นจำนวนถึง 10 เกมที่ทำได้ ยิ่งถ้าเกมไหนเล่นเกมเยือน กับโดนนำไปก่อน แฟนบอลปีศาจแดงยิ้มรอเลยว่ายังไงก็กลับมาชนะได้แน่นอน นี่เป็นคาแรกเตอร์นักสู้ที่หายไปนานมาก อย่างไรก็ตามนี่เป็นดาบสองคมเหมือนกันว่า ทำไมต้องรอให้โดนก่อนถึงจะเล่นดีด้วย บวกกับเกมในบ้านที่แพ้แบบน่าเกลียดหลายเกม คงต้องเป็นเรื่องที่ปรับปรุงกันต่อไป เล่นในบ้านให้ดี แล้วตามไปตบนอกบ้านให้ได้เท่าเดิม แมนยูจะน่ากลัวขึ้นเยอะ

อกหักนัดชิง

อีกหนึ่งก้าวที่หลายคนอาจจะมองว่าพัฒนาขึ้น แต่หลายคนมองว่าล้มเหลว นั่นก็คือ การเข้าถึงนัดชิงยูโรป้าลีค แต่แพ้ ที่ว่าพัฒนาขึ้นน่าจะเป็นการก้าวข้ามเส้นรอบรองชนะเลิศที่ซีซั่นก่อนตกรอบทุกรายการที่แข่งรอบนี้ แต่มาปีนี้พวกเค้าแข็งแกร่งพอจะก้าวไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้แล้ว น่าจะเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามการอกหักนัดชิงมันเป็นเรื่องที่ทำในได้ยากมาก ไม่เท่านั้นแท็คติค การเปลี่ยนเกม ประสบการณ์ในเกมนัดชิง โอเล่ น้อยมากคงต้องทำให้ดีกว่านี้

คุณภาพทีมแนวลึก

มาดูคุณภาพทีมกันบ้าง ชุดตัวหลักของทีมต้องยอมรับว่ายกระดับขึ้นมาได้ดี คาวานี่ เค้ามาเติมมิติเกมรุกแบบกองหน้าตัวเป้าจริงๆในแดนหน้า คู่กลางอย่าง บรูโน่ กับ ป็อกบา ก็ทำเกมได้ดี หรือจะเป็นเฟร็ด กับแม็คทอม ที่ลงคู่ หรือสลับกันลงก็ได้ กองหลังก็ไว้ใจได้ ยกเว้นเซนเตอร์แบ็คคู่กับ แมกไกรว์ อาจจะต้องหาเพิ่ม แต่ที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นคุณภาพทีมแนวลึกที่ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนตัวจริงได้เลย ยิ่งตอน แมกไกรว์ เจ็บ รู้เรื่องเลย คงต้องยกระดับตรงนี้ด้วยหากหวังจะคว้าแชมป์ลีคที่จะต้องโรเตชั่นนักเตะบ่อยๆ

นักเตะลิเวอร์พูล สอบตกจากเกมล่าสุด

นักเตะลิเวอร์พูล สอบตกจากเกมล่าสุด

เกมล่าสุด ลิเวอร์พูล แฟนบอลอาจจะบ่นว่า พวกเค้าโชคร้ายที่โดนริบประตู และ โดนจุดโทษจากการทำงานของ VAR ที่เกมนี้ทั้งหมด 4 ครั้ง มันไม่ได้เข้าข้างพวกเค้าเลยสักครั้ง แต่อีกด้านหนึ่งการที่พวกเค้าต้องมาโดนจุดโทษตีเสมอในนาทีสุดท้ายของเกม มันก็ต้องโทษความผิดพลาด และไม่เฉียบคมของนักเตะเองด้วยที่ทำประตูลูกที่ 2,3 จนปิดเกมไม่ได้เอง ส่วนหนึ่งมาจากนักเตะของพวกเค้าหลายคนสอบตกกับเกมดังกล่าว มีใครสอบตกบ้างใน

ทาคุมิ มินามิโนะ

คนแรกที่น่าผิดหวังมากกับฟอร์ม ก็คือ ทาคุมิ มินามิโนะ ที่ได้ลงสนามในฐานะตัวจริง ตำแหน่งกองกลางเกมนี้แทนที่เค้าจะฉวยจังหวะทำให้ดีที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและยึดตัวจริงให้ได้ กลับกลายเป็นว่า เค้าไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย สิ่งที่เราเห็นก็คือพอได้บอล แล้วก็ไม่สามารถเชื่อมเกมไปยังกองหน้าสามตัว หรือ คนที่อยู่ใกล้สุดอย่าง ซาลาห์ ได้เลย แถมตอนเกมรับ ก็วิ่งไล่เพรสบอลเป็นบ้า เป็นหลังเหมือนไม่ได้ซ้อมคิวกับเพื่อนอีกต่างหาก ทำเอาแฟนบอลเดอะค็อปชาวไทย แม้จะให้กำลังใจแต่ก็บ่นเซ็งกับฟอร์มการเล่นในเกมนี้ หวังว่าจะดีขึ้นในเกมต่อไป

เนโก วิลเลี่ยมส์

เกมนี้เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ ฝั่งตรงข้ามเลือกที่จะเจาะทางเจ้าหนูคนนี้ เนื่องจากกระดูกบอล ประสบการณ์น้อยกว่าใครในแผงกองหลัง แต่ก็เป็นไปตามแท็คติค อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็พยายามสู้อย่างสุดตัวเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า ไม่ใช่หมูให้เข้ามาเคี้ยวได้ง่ายๆเหมือนกัน แต่สุดท้ายเกมนี้ เนโก ก็พลาดทำเสียจุดโทษให้กับฝ่ายตรงข้ามยังดีไม่เสียประตูในจังหวะนี้ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีพลาดหลุดไปเหมือนกัน จนคล็อปป์ทนไม่ไหวต้องรีบเปลี่ยนออกช่วงต้นครึ่งหลัง เพื่อไม่ให้โดนจู่โจมจนเสียความมั่นใจไป แต่อย่างว่า น้องเค้ายังเด็กอยู่ก็ต้องใช้เวลาให้ความมั่นใจกันนิดหนึ่ง

ตรวจการบ้าน สเปอร์ส ทำอะไรไปแล้วบ้าง

ตรวจการบ้าน สเปอร์ส ทำอะไรไปแล้วบ้าง

สเปอร์ส ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่เรามองว่า ล้มเหลว และน่าผิดหวังมากจริงๆ จริงอยู่การแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ มาคุมทีมอาจจะไม่ใช่คนที่เข้ากันเท่าไร แต่มันก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่นัก จากผลงานก็ไม่ได้ขี้เหร่เลย แต่การปลดก่อนจะลงสนามนัดชิงกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือว่าน่าเกลียดทั้งวิธีการและผลลัพธ์ แถมจนถึงตอนนี้พวกเค้าเพิ่งจะได้กุนซือเป็นเรื่องเป็นราวสักที เรามาตรวจการบ้านสเปอร์สกันว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง

ผู้จัดการทีมคนใหม่

หลังจากมีข่าวกับกุนซือที่ว่างงาน และไม่ว่างงาน นับสิบคนทั่วยุโรป สุดท้าย สเปอร์ส ก็ทำการบ้านข้อแรกที่ควรจะทำเสร็จตั้งนานแล้วสักที นั่นก็คือ การตามหาผู้จัดการทีมคนใหม่ คนนั้นก็คือ นูโน่ เอสปริริโต้ ซานโต้ กุนซือคนเก่งของวูลฟ์แฮมป์ตัน ที่กว่าจะมาลงตัวคนนี้สเปอร์ส ก็หน้าแหกมาเยอะเหมือนกัน ต้องยอมรับว่ากว่าจะได้คนนี้มา มันช้าไปหน่อย อย่างไรก็ตามได้มาแล้วก็ดีกว่าไม่ได้ใครเลย

อนาคต แฮร์รี่ เคน

การบ้านข้อต่อไป เป็นการบ้านข้อที่สำคัญมากนั่นก็คือ อนาคตของดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมอย่าง แฮร์รี่ เคน ว่าจะอยู่หรือไป ตอนนี้เจ้าตัวเพิ่งจะเสร็จศึกกับทีมชาติอังกฤษในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 ก็ต้องมาดูกันว่า จะขายหรือเก็บไว้ต่อ สำคัญของข้อนี้ไม่ได้อยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่อยู่ที่ความชัดเจนจะมาตอนไหนต่างหาก หากมาไว นูโน่ กุนซือก็จะได้เดินหน้าต่อไปอย่างไร

เติมหลัง

สเปอร์ส เรื่องเกมบุกไว้ใจได้ แต่เกมรับ ก็น่าเหนื่อยใจแทนเช่นกัน หลายครั้งที่พวกเค้าพลาดชัยชนะในเกมสำคัญจากความผิดพลาดส่วนบุคคลของกองหลัง นั่นทำให้พวกเค้าต้องเติมกองหลังดีๆสักคนลงไป ตอนนี้ที่มีข่าวออกมาเป็นการซื้อกองหลังอย่างทาเคฮิโระ โทมิยาซุ กองหลังจากโบโลญญ่า ข่าวนี้ดูท่าสเปอร์สจะเอาจริงเสียด้วย เรามองว่าความคืบหน้าน่าจะมีการเจรจากันไปแล้วกว่าครึ่งทาง ก็เหลือแต่ว่าจะมาไหมแค่นั้นราคาประเมิน 20 ล้านปอนด์ ถือว่าเอาเรื่องอยู่

สรุปดาวยิง 5 ลีคใหญ่ยุโรปเวลานี้ (นับเฉพาะเกมลีค)

สรุปดาวยิง 5 ลีคใหญ่ยุโรปเวลานี้ (นับเฉพาะเกมลีค)

ตอนนี้ลีคใหญ่ของยุโรป กำลังเข้าสู่ช่วงของเกมบอลถ้วย ของประเทศตัวเอง ซึ่งจะเป็นเกมบอลถ้วยที่จะเข้าสู่ช่วงก่อนรองชนะเลิศ เกมลีคก็เลยได้พักกันไปก่อน (ใครตกรอบก่อนก็ไม่ได้แข่ง รอพักกันไป) ในช่วงพักสั้นๆแบบนี้ก็เลยมีการทำสถิติที่น่าสนใจออกมาเป็นสถิติดาวยิงสูงสุดของลีคในเวลานี้ มาดูกันว่า 5 ลีคใหญ่ยุโรปมีใครกันบ้าง

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ไปตั้งต้นที่บุนเดสลีก้า เยอรมันกันก่อน ชั่วโมงนี้ต้องยอมรับว่า ไม่มีใครร้อนแรงเกินว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ของบาเยิร์น มิวนิคอีกแล้ว จากซีซั่นก่อน ที่ยิงระเบิดจนพาทีมได้ ทริปเปิ้ลแชมป์ มาซีซั่นนี้ก็ยังโหดอย่างต่อเนื่อง สถิติบอกว่าลงเล่นไปทั้งหมด 19 เกม ทำไปทั้งหมด 24 ประตู เฉลี่ย 66 นาทีต่อ 1 ประตู นี่มันเป็นสถิติที่โหดมากแบบที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆจริง

หลุยส์ ซัวเรส

ยิงอุดปาก คงเป็นวลีที่ หลุยส์ คงอยากจะพูดเป็นภาษาไทยให้กับบอร์ดบริหารของ บาร์ซา ได้ยินเสียเหลือเกิน หากใครจำได้ ช่วงซัมเมอร์ ซัวเรส ต้องออกจากบาร์ซา แบบไม่ค่อยดีเท่าไรนัก สุดท้ายเค้าเลือก แอต.

มาดริด แล้วก็ไม่ผิดหวัง ตอนนี้ลงเล่นไป 17 เกม ทำไป 16 ประตู เฉลี่ย 80 นาทีต่อ 1 ประตู ขึ้นแท่นกลายเป็นดาวซัลโวมีสิทธิ์พา แอต.

มาดริด ขึ้นไปเถลิงแชมป์ลีคได้ด้วย

คิรียัน เอ็มปัปเป้

โกลเด้นบอย ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสอย่าง เอ็มปัปเป้ ก็คงรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้เหมือนกับ กับทีม PSG เค้าลงสนามไปทั้งหมด 20 เกม ทำไป 16 ประตู เฉลี่ย 90 นาที ต่อ 1 ประตู เป็นอีกหนึ่งกองหน้าที่โลกต้องจับตามองว่า เค้าจะไปไหนต่อเมื่อสิ้นสุดซีซั่นนี้

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

พี่โด้ ย้ายไปยูเวนตุส ในวัยไม่น้อยแล้ว แต่เค้าก็แสดงให้เห็นว่า อายุไม่ใช่ปัญหาสำหรับเค้า เค้ายังสามารถเล่นฟุตบอลได้ในระดับสูงสุดอีก เค้ายังต้องการมันอีก สังเกตได้จากสถิติลงเล่นไป 17 เกม ทำไป 16 ประตู ค่าเฉลี่ย 91 นาทีต่อประตู ถือว่าเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงมาก เราคิดว่า พี่โด้ คงไม่หยุดเพียงแค่นี้แน่

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์

สุดท้ายตัวแทนจาก พรีเมียร์ลีค เป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ คนดีคนเดิมของเหล่าเดอะ ค็อป ที่ลงสนามไป 22 เกม ทำไปทั้งหมด 16 ประตูกับค่าเฉลี่ย 115 นาทีต่อ 1 ประตู น่าเสียดายที่ผลงานดีแบบนี้ไม่พาให้ต้นสังกัดบินสูงตามไปด้วย

กองกลางที่อยากให้สอยมาแทนบรูโน่

กองกลางที่อยากให้สอยมาแทนบรูโน่

สำหรับดีลของ บรูโน่ แฟร์นันเดส ต้องขอแสดงความเสียใจล่วงหน้ากับแฟนแมนยูได้เลยว่า ดีลไม่เกิดขึ้นแน่นอน แม้ว่าตอนนี้จะมีข่าวว่า ผีขอวัดใจยื่นครั้งสุดท้ายเพื่อดึงมาให้ได้ อย่างไรก็ตามหากไม่ได้จริง ก็ยังมีกองกลางอีกหลายคนในท้องตลาดที่ฝีเท้าไม่ต่างกัน ราคาก็พอสู้ได้ สื่อได้คาดการณ์เอาไว้ส่วนหนึ่งมีใครกันบ้าง

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
พ่อมดน้อยแห่งแอนฟิลด์ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เป็นชื่อแรกที่เราขอแนะนำ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีเหมือนเดิมแม้ว่าจะเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิค อยู่ก็ตาม หากมองในเรื่องของฟุตบอล นี่เป็นดีลที่ดีเพราะเจ้าตัวไม่น่าจะได้ลงเล่นในทีมบาร์เซโลน่าแล้วกับบาเยิร์น มิวนิคก็ไม่น่าจะซื้อขาด เจ้าตัวหากมาก็จะกลายเป็นตัวจริงได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง แต่เค้าจะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานผู้ทรยศในสายตาเดอะค็อป เหมือนกับ ไมเคิล โอเว่น ถ้ายอมรับได้ก็มา  

คริสเตียน อิริกเซ่น
คนต่อไปเพลย์เมกเกอร์ ทีมชาติเดนมาร์ค ที่ส่อแววว่าลาจากทีมสเปอร์สแน่นอน อย่างไรก็ตามสัญญาณแรงมากว่าเจ้าตัวจะไปลงเอยกับอินเตอร์ มิลานในอิตาลี อย่างไรก็ตามโลกฟุตบอลไม่สามารถคาดเดาได้เลย หากแมนยูอยากจะเร่งเพื่อปิดดีลนี้โค้งสุดท้ายก็ยังพอมีหวังอยู่ ตัวนี้บอกเลยว่าถ้าได้มาไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย ฝีเท้าการันตี แฟนบอลก็โอเค ค่าตัวไม่น่าแพงมากเพราะใกล้หมดสัญญา ถ้าอยากได้ต้องรีบ

เจมส์ แมดดิสัน
คนนี้ถือว่าเป็นกองกลางที่เด่นมาของเลสเตอร์ ทำผลงานได้บินสูงในขณะนี้ บวกกับเป็นสายเลือดอังกฤษด้วยน่าจะถูกสเปคของโซลชาร์ แต่ปัญหาอยู่ที่เลสเตอร์ไม่ได้เป็นทีมหนีตกชั้น หรือขาดเงินจนต้องขายนักเตะกิน บวกกับเลสเตอร์กำลังลุ้นทำผลงานไปเล่น UCL ฤดูกาลหน้า จนถึงรอลุ้นบอลถ้วยอีกด้วย ถ้าจะเอาจริงบอกเลยว่า 100 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อย

แจ็ค กรีลิช
จอมทัพคนนี้พัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของทีมแอสตัน วิลล่าอย่างน่าภาคภูมิใจ การออกบอล การครองบอลอันเหนียเตแน่น การยิงไกล และลูกตั้งเตะ ถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน อีกทั้งการเล่นด้วยจิตใจอันกล้าหาญ น่าจะเข้ามายกระดับแผงกองกลางของแมนยูได้เลย คนนี้เชียร์เลยว่าน่าซื้อที่สุด

บทเรียนสอนใจทีมซื้อขายนักเตะจากดีลของแวร์เนอร์

บทเรียนสอนใจทีมซื้อขายนักเตะจากดีลของแวร์เนอร์

สุดท้ายก็ต้องใช้คำว่าจบลงเสียทีสำหรับดีลที่ต้องบอกว่าเป็นมหากาพย์ในโลกลูกหนังด้วยเหมือนกัน สำหรับดีลของ ติโม แวร์เนอร์ ยอดดาวเตะทีมชาติเยอรมัน จากแอร์เบ ไลป์ซิก ที่สุดท้ายดีลก็มาหักมุมเอาตอนสุดท้ายที่นักเตะตกลงเลือกที่จะย้ายมาเล่นให้กับเชลซีแทนที่จะเป็นลิเวอร์พูลทีมที่ตามอ่อยออกสื่อมาเกือบทั้งฤดูกาล จากดีลนี้ด้วยราคา 47.5 ล้านปอนด์ เราได้เห็นบทเรียนอะไรกันบ้างจากทีมซื้อขายเชลซี
ความเร็วสำคัญกว่าจำนวนเงิน
ดีลของติโม แวร์เนอร์นั้น ต้องบอกว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัยอย่างเดียวในการคว้าตัวมา จริงอยู่ว่าต้องมีเงินก่อนเพื่อจ่ายค่าฉีกสัญญาที่ตั้งไว้ แต่ดีลของแวร์เนอร์นั้น เราต้องยกเครดิตให้กับทีมซื้อขายของเชลซีที่ใช้ความเร็วในการติดต่อ เจรจา แบบไม่ต้องมากความอะไรทั้งนั้น หากไล่เลียงไทม์ไลน์ ดีลนี้เชลซีใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือนก็ปิดดีลได้เลย ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดีหากอยากได้ใครต้องเร็ว ต้องไว เพื่อให้ถึงเป้าหมาย หากช้าก็คงจะไม่ได้อะไร
แสดงความจริงใจต่อดีล
ไม้เด็ดที่ทำให้ เชลซี คว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ มาได้นั้น ต้องบอกว่าอยู่ที่ไม้ตายลับที่ชื่อว่า ปีเตอร์ เช็ค เค้าคนนี้คือยอดนายทวารระดับตำนานของเชลซีที่ตอนนี้มาทำงานฝ่ายเทคนิคให้กับทีม ไม้เด็ดของเค้าก็คือ ปีเตอร์ เช็ค กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือของทีมได้บินลัดฟ้าไปหาแวร์เนอร์ถึงเยอรมัน จากนั้นก็คุยถึงแผนการทำทีม คุยเรื่องฟุตบอล เพื่อให้แวร์เนอร์ทราบจุดยืนของตัวเองต่อเชลซีหากได้ย้ายมา และแสดงความจริงใจของสโมสรที่มีต่อนักเตะด้วย เจอผู้จัดการทีมและที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิคมาคุยเองแบบนี้ นักเตะก็คงจะรับทราบความจริงใจของทีมได้ว่าต้องการตัวเค้าแค่ไหน ต่างจากทางลิเวอร์พูลที่ถือว่าทำได้น้อยมากในเรื่องนี้
ก็ต้องดูว่าบทเรียนในครั้งนี้ น่าจะทำให้หลายทีมปรับกลยุทธ์การซื้อนักเตะระดับบิ๊กเนมกันมากขึ้นเหมือนกัน ก็ต้องมาดูว่า แวร์เนอร์จะทำผลงานได้ดีแค่ไหนในซีซั่นหน้า

มูรินโญเผยความรู้สึกหลังรู้ว่าลิเวอร์พูลจะเข้าคว้าแชมป์ลีกปีนี้

มูรินโญเผยความรู้สึก
โชเซ มูรินโญ กุนซือชื่อดังของโลก ในฐานะผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของทอตแนม ฮอตสเปอร์กล่าวว่าตัวเขาเองรู้ดีว่าปีนี้มงต้องลงที่หงส์แดง ลิเวอร์พูล หลังจากการแข่งขันที่พวกเขาเอาชนะแมน ซิตี้ไป 3 ต่อ 1 และเขาเองก็รู้ดีว่านักเตะแมน ซิตี้ก็รู้ดีเช่นกัน
“ผมรู้อยู่แล้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ผมรู้ดีเลยแหละ” มูรินโญกล่าว “ผมรู้ว่ามันยากที่จะชนะสามลีกติดต่อกัน”
“แต่พวกเขาก็เยี่ยมมาก ยังเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม นักแข่งที่ยอดเยี่ยม และผู้จัดการทีมเองก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน”
และเมื่อพูดถึงสตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ผู้เล่นค่าตัว 27 ล้านปอนด์ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 1,090ล้านบาท ที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมไม่นาน แต่กลับโชว์ฝีไม้ลายมือได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่พวกเขาเอาชนะเรือใบสีฟ้าไป 2-0 “การที่เราชนะพวกเขาเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะดูจากตารางตอนนี้ ถ้าคุณแพ้สักสองเกมคุณก็ตกชั้น ถ้าชนะสองเกม คุณก็ได้เลื่อนชั้น และแน่นอนว่ามันสำคัญกับเรามาก สำคัญมากเลยแหละ” มูรินโญกล่าว
ชัยขนะเหนือทีมแมนซิตี้ส่งผลให้ทอตแนม ฮอตสเปอร์เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง โดยมีคะแนนตามหลังสิงห์บลู เชลซีอยู่ 4 แต้ม และการแข่งขันรอบสุดท้ายในศึกพรีเมียร์ลีกก่อนพักเตะ หงส์แดง ลิเวอร์พูลก็ทิ้งท้ายด้วยคะแนน 4 ต่อ 0 ในนัดที่เจอกับเซาแธมป์ตันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยที่คู่แข่งคนสำคัญอย่างเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็พลาดท่าให้กับทอตแนม ฮอตสเปอร์ ภายใต้การนำทีมของโชเซ มูรินโญ ส่งผลให้คะแนนรวมของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลังจ่าฝูงอย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูลมากถึง 22 แต้ม อีกทั้งยังรั้งตำแหน่งไร้พ่ายตั้งแต่ 3 มกราคม 2019 อีกด้วย โดยตอนนี้ลิเวอร์พูลยังต้องการคะแนนเพิ่มอีกแค่เพียง 6 แต้มก่อนที่จะคว้าชัยชนะหลังรอคอยมานานกว่า 30 ปี