ซาลาห์โชว์ฟอร์มสุดเฉียบ ตอบแทนสัญญาฉบับใหม่ ลิเวอร์พูลเข้าใกล้แชมป์พรีเมียร์ลีก

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) สตาร์ชาวอียิปต์ของ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ตอกย้ำความคุ้มค่าของสัญญาฉบับใหม่ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นในเกมที่ทีมเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (West Ham United) 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมพาทีมเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ

สถิติใหม่ของซาลาห์ในพรีเมียร์ลีก

ในเกมล่าสุดกับเวสต์แฮม ซาลาห์แอสซิสต์ให้กับ หลุยส์ ดิอาซ (Luis Diaz) ทำประตูแรกในนาทีที่ 18 จากจังหวะจ่ายบอลด้วยข้างเท้าด้านนอกอย่างเหนือชั้น ซึ่งถือเป็นการมีส่วนร่วมกับประตูที่ 45 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของเขา (ยิง 27 แอสซิสต์ 18) นับเป็นสถิติใหม่สำหรับผู้เล่นในฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่มี 38 นัด โดยแซงหน้า เธียร์รี่ อองรี (Thierry Henry) ในฤดูกาล 2002-03 และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ (Erling Haaland) ในฤดูกาล 2022-23

นอกจากนี้ ซาลาห์ยังทำสถิติทิ้งห่างผู้เล่นอื่นในลีกท็อป 5 ของยุโรปในฤดูกาล 2024-25 ถึง 15 ประตูจากการมีส่วนร่วมโดยตรง แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเขาต่อแนวรุกของลิเวอร์พูลอย่างแท้จริง

ฟอร์มแข็งแกร่งของแนวรับ ลิเวอร์พูลกับเป้าหมายแชมป์ลีก

นอกจากซาลาห์แล้ว เกมนี้ยังเห็นความโดดเด่นของผู้รักษาประตู อลิสซอน เบ็คเกอร์ (Alisson Becker) ที่กลับมาลงสนามหลังหายจากการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ เขาโชว์เซฟสวยหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะปัดลูกชิพของ โมฮัมเหม็ด คูดุส (Mohammed Kudus) ชนคานในครึ่งแรก

ส่วนทางด้านกัปตันทีม เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (Virgil van Dijk) ก็ยังคงเป็นหัวใจในแนวรับ และมีรายงานว่าเขาอาจจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมในสัปดาห์หน้า เช่นเดียวกับที่ซาลาห์ทำไปก่อนหน้านี้

ลิเวอร์พูลมั่นใจ คว้าแชมป์พร้อมวางแผนอนาคต

ด้วยชัยชนะในเกมนี้ ลิเวอร์พูลยังคงรั้งจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีก และหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ พวกเขามีโอกาสคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งที่สองในยุคพรีเมียร์ลีกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ขณะที่อนาคตของนักเตะหลักเริ่มมีความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่ซาลาห์ต่อสัญญาไปแล้ว และแฟน ๆ ต่างก็หวังว่าฟาน ไดจ์คจะตามมาในเร็ว ๆ นี้ ส่วน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (Trent Alexander-Arnold) นั้นยังมีข่าวเชื่อมโยงกับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) อย่างต่อเนื่อง

ผลงานของซาลาห์ในเกมนี้นอกจากจะช่วยทีมคว้าชัย ยังเป็นการยืนยันถึงความคุ้มค่าในการรั้งเขาไว้ในถิ่นแอนฟิลด์ และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อีกครั้ง

หากคุณต้องการความปลอดภัยและสะดวกสบายในการแทงบอลออนไลน์ ควรเรียนรู้ วิธี สมัคร sbobet ไม่ผ่านเอเย่นต์ เพื่อความมั่นใจในการเดิมพัน เว็บไซต์หลายแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับ วิธี สมัคร sbobet ไม่ผ่านเอเย่นต์ อย่างละเอียด พร้อมแนะนำขั้นตอนแบบ step by step

 

บูกาโย่ ซาก้า คืนสนามอย่างมั่นใจหลังพักรักษาตัว

บูกาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka) ปีกความเร็วสูงของทีม อาร์เซนอล (Arsenal) เผยว่า การพักรักษาอาการบาดเจ็บจากปัญหากล้ามเนื้อหลังต้นขาได้ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของเขาอย่างมาก พร้อมระบุว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาได้พักจากการลงสนามตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ซาก้า วัย 23 ปี ต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บถึง 101 วัน และเพิ่งกลับมาลงสนามได้ในเกมพรีเมียร์ลีกที่พบกับ เอฟเวอร์ตัน (Everton) โดยถูกเปลี่ยนตัวลงเล่นในครึ่งหลัง และก่อนหน้านั้นเขายังมีชื่อทำประตูได้ในเกมที่ อาร์เซนอล (Arsenal) เอาชนะ ฟูแล่ม (Fulham) ไปได้อีกด้วย

ซาก้ารู้สึกสดชื่น พร้อมช่วยอาร์เซนอลลุยศึกสำคัญ

ซาก้า กล่าวในการสัมภาษณ์ว่า การพักรักษาตัวครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น และช่วยให้เขามีเวลาได้ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง

“ผมคิดว่าในด้านจิตใจ มันดีมากสำหรับผม เพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ผมลงเล่นต่อเนื่องแทบไม่เคยได้หยุด การได้หยุดครั้งนี้ทำให้ผมได้พัก ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ และกลับมาพร้อมความสดใหม่” ซาก้า กล่าว

มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล (Arsenal) ยืนยันว่า ซาก้าจะพร้อมลงเป็นตัวจริงในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ซึ่งถือเป็นอีกบททดสอบสำคัญของทีมในฤดูกาลนี้

ซาก้าพร้อมลุยอนาคตกับอาร์เซนอล ไม่สนกระแสข่าวลือ

แม้จะมีข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของ บูกาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka) เนื่องจากสัญญาฉบับปัจจุบันจะเหลืออีกเพียง 2 ปีในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่เจ้าตัวก็ได้ออกมายืนยันชัดเจนว่าเขายังคงมีความมุ่งมั่นและต้องการประสบความสำเร็จกับ อาร์เซนอล (Arsenal)

“ผมอยากชนะ และผมอยากชนะในขณะที่ใส่เสื้อตัวนี้อยู่ แฟนบอลรู้ดีว่าผมรักพวกเขามากแค่ไหน และผมก็รู้ว่าพวกเขารักผมเช่นกัน” ซาก้ากล่าว

ความมั่นใจและฟอร์มการเล่นที่สดใหม่ของ บูกาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka) ถือเป็นข่าวดีสำหรับ อาร์เซนอล (Arsenal) ที่กำลังไล่ล่าแชมป์ในทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีก การกลับมาของเขาน่าจะเพิ่มพลังเกมรุกให้ทีมได้อย่างมากในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล

เล่นเกมได้เงินจริงที่ everythingwin แพลตฟอร์มเดียวที่รวมทุกความสนุกไว้ครบ ไม่ว่าจะเป็นแทงบอล สล็อต หรือคาสิโนสด ทุกอย่างมีครบที่ everythingwin

 

โปสเตโคกลู ยืนยันไม่สะท้านเสียงวิจารณ์จากแฟนบอลสเปอร์ส

อังเก้ โปสเตโคกลู (Ange Postecoglou) หัวหน้าโค้ชของท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ออกมายืนยันว่าเขาไม่รู้สึกได้รับผลกระทบจากเสียงวิจารณ์หรือคำด่าทอจากแฟนบอลบางส่วน แม้ว่าผลงานของทีมจะไม่เป็นไปตามความคาดหวัง พร้อมประกาศชัดเจนว่าเขาจะสู้ต่อไปตลอดอาชีพการเป็นผู้จัดการทีม

หลังจากสเปอร์สพ่ายแพ้ต่อเชลซี (Chelsea) ไป 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก (Premier League) เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้ทีมสะสมสถิติแพ้ไปแล้ว 16 นัดจาก 30 เกมในฤดูกาลนี้ แฟนบอลบางส่วนจึงแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง

จังหวะปะทะอารมณ์ระหว่างเกมกับเชลซี 

ระหว่างเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ (Stamford Bridge) แฟนบอลสเปอร์สบางส่วนได้แสดงความไม่พอใจต่อการเปลี่ยนตัวของโค้ช เมื่อโปสเตโคกลู (Postecoglou) ตัดสินใจถอด ลูคัส เบิร์กวัลล์ (Lucas Bergvall) ออก และส่ง เปเป้ ซาร์ (Pape Sarr) ลงสนามในนาทีที่ 65 เสียงโห่และคำตะโกนว่า “คุณไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่” ดังกระหึ่มจากอัฒจันทร์

ไม่นานหลังจากนั้น เปเป้ ซาร์ (Pape Sarr) ก็สามารถยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ แต่หลังจากการตรวจสอบของ VAR ประตูถูกยกเลิกเนื่องจากมีการฟาวล์ในจังหวะก่อนหน้า โปสเตโคกลู (Postecoglou) ซึ่งได้ยกมือป้องหูใส่แฟนบอลในจังหวะที่ดีใจกับประตู ยอมรับภายหลังว่าเป็นความผิดพลาดของเขา

“ผมรู้ว่า VAR อาจเปลี่ยนผลลัพธ์ได้ แต่ตอนนั้นผมรู้สึกว่าเราต้องการแรงกระตุ้น ผมเลยดีใจเกินไปหน่อย นั่นเป็นความผิดพลาดของผมเอง” เขากล่าว

โปสเตโคกลู ยังมั่นใจในทีมและสู้ต่อไป

แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่น่าผิดหวัง โดยสเปอร์ส (Tottenham Hotspur) รั้งอันดับที่ 14 ของตาราง ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งอันดับเหนืออันดับที่แย่ที่สุดของทีมในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 1994 แต่โปสเตโคกลูยังคงให้กำลังใจนักเตะและพร้อมรับคำวิจารณ์

“ผมเข้าใจว่าแฟน ๆ โกรธ และผมก็ไม่หลบหลีกคำวิจารณ์ แต่หากมีใครบอกว่านักเตะของผมไม่สู้ ผมว่าพวกเขาอาจดูเกมผิด” โค้ชวัย 58 ปีกล่าว

เขายืนยันอีกครั้งว่าเขาไม่สนใจกับคำด่าทอส่วนตัว และจะยังยืนหยัดในหน้าที่ พร้อมสู้เพื่อพาทีมกลับสู่เส้นทางที่ดีขึ้น

สรุป

แม้จะต้องเผชิญแรงกดดันจากผลงานที่ไม่น่าพอใจในพรีเมียร์ลีก (Premier League) และเสียงวิจารณ์จากแฟนบอล อังเก้ โปสเตโคกลู (Ange Postecoglou) ยืนยันจะไม่ยอมแพ้และจะทำหน้าที่ของตนเองต่อไปอย่างเต็มที่เพื่อสโมสร ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ความมุ่งมั่นของเขาอาจเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ทีมกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีได้ในอนาคต

หากคุณเคยเล่นเสียและอยากได้โอกาสคืนทุน ลองใช้บริการจาก เว็บแทงบอล คืนยอดเสีย ที่ให้คืนสูงสุดทุกสัปดาห์ โปรโมชั่นจาก เว็บแทงบอล คืนยอดเสีย ช่วยให้นักเดิมพันมีโอกาสแก้ตัวในรอบถัดไปได้ง่ายขึ้น

 

อาการบาดเจ็บของฮาแลนด์ส่งผลต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เออร์ลิง ฮาแลนด์ (Erling Haaland) กองหน้าตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานานถึง 7 สัปดาห์ หลังได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าในเกม เอฟเอ คัพ (FA Cup) รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่เอาชนะ บอร์นมัธ (Bournemouth) ไป 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อาการบาดเจ็บนี้ทำให้ทีมต้องปรับแผนการเล่นและอาจส่งผลกระทบต่อการลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (UEFA Champions League) ในฤดูกาลนี้

รายละเอียดอาการบาดเจ็บและระยะเวลาการพักฟื้น

ฮาแลนด์ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 61 หลังจากทำประตูตีเสมอให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ หลังจบเกมมีคลิปวิดีโอเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นว่าเขาออกจากสนาม ไวทัลลิตี้ สเตเดียม (Vitality Stadium) โดยใช้ไม้ค้ำยันและมีอุปกรณ์พยุงข้อเท้าซ้าย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) ผู้จัดการทีม ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของฮาแลนด์ว่า:

“ทีมแพทย์บอกผมว่าเขาจะต้องพักประมาณ 5-7 สัปดาห์ เราหวังว่าเขาจะกลับมาทันช่วงท้ายฤดูกาล และพร้อมสำหรับศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (FIFA Club World Cup)”

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แถลงเพิ่มเติมว่า ฮาแลนด์จะเข้าพบผู้เชี่ยวชาญด้านอาการบาดเจ็บ และคาดว่าเขาจะสามารถกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ในช่วงท้ายของฤดูกาล รวมถึงศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่จะจัดขึ้นในช่วงซัมเมอร์

ผลกระทบต่อผลงานของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

อาการบาดเจ็บของฮาแลนด์ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมก็ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลักหลายคน โดยเฉพาะในแนวรุก สำหรับเกมที่พบกับ บอร์นมัธ ฮาแลนด์มีโอกาสทำประตูหลายครั้งแต่พลาดจุดโทษ อย่างไรก็ตาม เขายังสามารถทำประตูตีเสมอจากลูกครอสของ นิโค โอไรลีย์ (Nico O’Reilly) ก่อนที่ โอมาร์ มาร์มูช (Omar Marmoush) จะยิงประตูชัยให้ทีม

ปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รั้งอันดับ 5 ของ พรีเมียร์ลีก (Premier League) ตามหลัง เชลซี (Chelsea) เพียง 1 คะแนน ในการลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดย เอฟเอ คัพ เป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขาในฤดูกาลนี้ หลังจากต้องเจอกับผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายใน พรีเมียร์ลีก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และ คาราบาว คัพ (Carabao Cup)

การขาดหายไปของฮาแลนด์ทำให้ กวาร์ดิโอล่า ต้องปรับแผนการเล่น โดยอาจต้องพึ่งพานักเตะอย่าง จูเลียน อัลวาเรซ (Julián Álvarez) และ ฟิล โฟเดน (Phil Foden) มากขึ้นในการทำเกมรุก แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คงต้องรอคอยการกลับมาของกองหน้าตัวเก่งรายนี้ และหวังว่าเขาจะฟื้นตัวได้ทันเวลาสำหรับช่วงท้ายของฤดูกาล

ฟุตบอลไทย กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยมีนักเตะดาวรุ่งหลายคนแจ้งเกิดในลีกอาชีพ แฟนบอลให้ความสนใจ ฟุตบอลไทย มากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันไทยลีกที่มีความเข้มข้นทุกฤดูกาล