น้ำตาซึมเมื่อ สเปอร์ส ไล่ วิลลา-โบอาส-วอล์คเกอร์

ไคล์ วอล์คเกอร์ (Kyle Walker) กล่าวว่า อังเดร วิลลาส-โบอาส (Andre Villas-Boas) อดีตผู้จัดการทีม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) “เริ่มร้องไห้ต่อหน้าเรา” เมื่อเขาถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยประธานสโมสร แดเนียล เลวี (Daniel Levy) ในเดือนธันวาคม 2013

กองหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ที่เคยอยู่กับ สเปอร์ส (Spurs) เป็นเวลา 8 ปี ระหว่างปี 2009-2017 อธิบายว่าอดีตผู้จัดการทีมของเขาเป็นคนที่ “ดีมาก ๆ” ในตอนล่าสุดของพอดคาสต์ “You’ll Never Beat Kyle Walker”

วอล์คเกอร์ (Walker) กล่าวว่าเขาจะ “ไม่มีวันลืม” ช่วงเวลาที่ วิลลาส-โบอาส (Villas-Boas) พูดกับทีม ท็อตแนม (Tottenham) หลังจากที่เขาถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยเผยว่ามีสมาชิกในทีมบางคนก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน

“น้ำตาไหลอาบแก้มของผม… ไมเคิล ดอว์สัน (Michael Dawson) ก็น้ำตาคลอ” วอล์คเกอร์ (Walker) วัย 34 ปีกล่าว “นั่นคือความสำคัญที่เขามีต่อพวกเรา”

วิลลาส-โบอาส (Villas-Boas) ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส เข้ารับตำแหน่ง สเปอร์ส (Spurs) ในเดือนกรกฎาคม 2012 และเกือบจะพาสโมสรไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (UEFA Champions League) ในฤดูกาลแรกของเขา – จบที่อันดับห้าด้วยคะแนนตามหลัง อาร์เซนอล (Arsenal) เพียงหนึ่งคะแนนใน พรีเมียร์ลีก (Premier League)

ทีม สเปอร์ส (Spurs) ในปีนั้นรวมถึงนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ในฤดูกาล 2012-2013 แกเร็ธ เบล (Gareth Bale)

ดาวเตะทีมชาติ เวลส์ (Wales) ย้ายไป เรอัล มาดริด (Real Madrid) ด้วยค่าตัวสูงสุดเป็นสถิติโลกในตอนนั้นที่ 85.3 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 และแม้จะนำเงินนั้นไปลงทุนในทีม แต่ทีมก็ประสบปัญหาในฤดูกาลถัดมา

หลังจากผลการแข่งขันที่ย่ำแย่ รวมถึงการพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล (Liverpool) 5-0 ในเดือนธันวาคม 2013 วิลลาส-โบอาส (Villas-Boas) ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง

วอล์คเกอร์ (Walker) กล่าวว่าเขาเสียใจที่ทีมไม่สามารถทำผลงานได้ดีพอที่จะรักษาตำแหน่งของผู้จัดการทีมไว้ได้ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด แทงบอล ออนไลน์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

“การสูญเสีย เบล (Bale) เป็นเรื่องใหญ่” เขากล่าว “พวกเขานำเงินจากการขาย เบล (Bale) ไปเซ็นสัญญากับผู้เล่นใหม่ถึงเจ็ดคน มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในทีม แต่พวกเรากลับไม่สามารถปรับตัวเข้าขากันได้อย่างรวดเร็วพอที่จะสนับสนุนให้ วิลลาส-โบอาส (Villas-Boas) ทำผลงานได้ดี”

แม้ว่าทีม “ไม่ทำให้เขาได้รับความยุติธรรม” แต่ วอล์คเกอร์ (Walker) กล่าวถึงอดีตผู้จัดการทีมของเขาว่า “สำหรับผู้เล่น 10 หรือ 12 คนที่ร้องไห้เพราะผู้จัดการทีมจากไป แสดงว่าเขาได้ทำอะไรที่ดีในห้องแต่งตัว”

ไคล์ วอล์คเกอร์ (Kyle Walker) ยังได้พูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน (Mauricio Pochettino) อดีตผู้จัดการทีม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ในพอดคาสต์

เขาเป็นกำลังหลักของ ท็อตแนม (Tottenham) มาโดยตลอด แต่ในฤดูกาลสุดท้ายของเขา เขาต้องเผชิญกับการแข่งขันในตำแหน่งแบ็คขวาจาก เคียแรน ทริปเปียร์ (Kieran Trippier) เพื่อนร่วมทีมชาติ อังกฤษ (England)

เขากล่าวว่าเขามี “ความเคารพอย่างสูงสุด” ต่อตัว ทริปเปียร์ (Trippier) แต่รู้สึกว่าเป็น “เรื่องที่ค่อนข้างต่ำต้อย” เมื่อ โปเช็ตติโน (Pochettino) เลือกให้กองหลังที่เคยเล่นให้ เบิร์นลีย์ (Burnley) ลงเป็นตัวจริงแทนเขาในเกมสุดท้ายของ สเปอร์ส (Spurs) ที่สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน (White Hart Lane) – เกมที่ชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ในเดือนพฤษภาคม 2017

“เขา [โปเช็ตติโน (Pochettino)] ส่งผมลงเล่นตอนประมาณนาทีที่ 84 หรืออะไรแบบนั้น” วอล์คเกอร์ (Walker) กล่าว “นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดจริงๆ”

“ผมรู้สึกว่าผมอยู่ที่นี่มานานมาก สนามนั้นมีความหมายกับผมมาก”

วอล์คเกอร์ (Walker) กล่าวว่า โปเช็ตติโน (Pochettino) ให้อนุญาตเขาออกจากสโมสรในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 หลังจากบอกว่าเขาจะเลือก ทริปเปียร์ (Trippier) เป็นแบ็คขวาตัวจริง

อย่างไรก็ตาม วอล์คเกอร์ (Walker) วัย 34 ปีกล่าวว่าเขา “ไม่มีคำพูดร้ายๆ” เกี่ยวกับอดีตโค้ชของเขา และว่า “ผมขอบคุณเขา และเมื่อใดก็ตามที่ผมเจอเขา ผมจะให้กอดและโอบกอด และก็จบแค่นั้น”

ด้านที่โกรธเกรี้ยวของ ฮอดจ์สัน (Hodgson) ในพอดคาสต์ วอล์คเกอร์ (Walker) ได้เปิดเผยว่าใครคือผู้จัดการทีมที่ดุที่สุดในช่วงอาชีพของเขา

เขากล่าวว่า รอย ฮอดจ์สัน (Roy Hodgson) อดีตผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ (England) โดยทั่วไปแล้วเป็นคนที่ “เป็นทางการและสุภาพมาก” แต่เมื่อเขา “อารมณ์เสีย สิ่งอื่นก็จะออกมา”

เขาจำได้ครั้งหนึ่งที่ ฮอดจ์สัน (Hodgson) วัย 77 ปี เก็บทีมไว้ “ประมาณครึ่งชั่วโมง” หลังจากทำผลงานแย่ที่ เวมบลีย์ (Wembley) “เพื่อดุด่าพวกเรา”

วอล์คเกอร์ (Walker) ยังได้พูดถึงอดีตผู้จัดการทีม ท็อตแนม (Tottenham) โปเช็ตติโน (Pochettino) โดยกล่าวว่า “ถ้าผมต้องบอกว่ามีใครที่อารมณ์เสีย ผมคงจะบอกว่าเขา เพียงเพราะความหลงใหลในเกมของเขา”

“เขาค่อนข้างใจเย็น แต่เมื่อเขาอารมณ์เสีย เขาก็จะระเบิดได้” เขากล่าวเสริม

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ สเปอร์ส (Spurs) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด แทงบอล ออนไลน์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

เซาแธมป์ตันตกลงค่าตัวกับอาร์เซนอลเพื่อคว้าตัวนายทวารทีมชาติอังกฤษ

เซาแธมป์ตัน (Southampton) ได้บรรลุข้อตกลงกับอาร์เซนอลในการซื้อตัวผู้รักษาประตู แอรอน แรมส์เดล (Aaron Ramsdale) แบบถาวร โดยมีรายละเอียดดังนี้

รายละเอียดการย้ายทีม

ตามข้อมูลที่ได้รับ ค่าตัวคงที่สำหรับ แรมส์เดล อยู่ที่ 18 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 25 ล้านปอนด์หากบรรลุเงื่อนไขผลงานที่กำหนดไว้ การเจรจายังคงดำเนินต่อไปเพื่อตกลงในรายละเอียดอื่นๆ ของสัญญา แต่ดูเหมือนว่าทุกฝ่ายจะมีความหวังว่าการย้ายทีมจะเสร็จสมบูรณ์
แรมส์เดล ซึ่งมีสัญญากับ อาร์เซนอล จนถึงปี 2026 ได้รับแจ้งว่าเขาสามารถย้ายออกจากสโมสรได้หากมีข้อเสนอที่เหมาะสม นายทวารทีมชาติอังกฤษรายนี้สูญเสียตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมปืนใหญ่ให้กับ ดาบิด รายา (David Raya) ในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การคาดการณ์ว่าเขาจะย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

ความเคลื่อนไหวของเซาแธมป์ตัน

ก่อนหน้านี้ เซาแธมป์ตัน ดูเหมือนจะเซ็นสัญญากับ จัสติน บิจโลว์ (Justin Bijlow) จากเฟเยนูร์ด (Feyenoord) เมื่อต้นสัปดาห์ แต่ตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงในขั้นตอนการตรวจร่างกายเมื่อวันอังคาร การตัดสินใจนี้อาจเป็นผลมาจากโอกาสในการคว้าตัว แรมส์เดล

สถานการณ์ผู้รักษาประตูของเซาแธมป์ตัน

ผู้รักษาประตูคนปัจจุบันของ เซาแธมป์ตัน อเล็กซ์ แมคคาร์ธี (Alex McCarthy) ทำผิดพลาดในเกมเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก ซึ่งส่งผลให้ นิวคาสเซิล (Newcastle) ยิงประตูชัยได้ เหตุการณ์นี้อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทีมต้องการเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งผู้รักษาประตู

ความเคลื่อนไหวของอาร์เซนอล

ในขณะเดียวกัน อาร์เซนอล ก็มีแผนรองรับการจากไปของ แรมส์เดล โดยมีรายละเอียดของข้อตกลงส่วนใหญ่พร้อมแล้วสำหรับการเซ็นสัญญากับ โฆอาน การ์เซีย (Joan Garcia) ผู้รักษาประตูจาก เอสปันญอล (Espanyol) เพื่อเป็นตัวแทน และเชื่อว่าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะปิดดีลนี้

กำหนดการปิดตลาดซื้อขายนักเตะ

ตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนปี 2024 จะปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 สิงหาคม เวลา 23.00 น. ตามเวลาสหราชอาณาจักรสำหรับ พรีเมียร์ลีก และ 23.30 น. สำหรับสกอตแลนด์
พรีเมียร์ลีกได้เลื่อนวัน Deadline Day ให้สอดคล้องกับลีกใหญ่อื่นๆ ในยุโรป วันปิดตลาดซื้อขายนี้ถูกกำหนดขึ้นหลังจากการหารือร่วมกันระหว่างลีกในอังกฤษ เยอรมนี อิตาลี สเปน และฝรั่งเศส

ผลกระทบต่อทั้งสองทีม

การย้ายทีมครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทั้ง เซาแธมป์ตัน และ อาร์เซนอล สำหรับ เซาแธมป์ตัน การได้ผู้รักษาประตูที่มีประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก และทีมชาติอย่าง แรมส์เดล จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวรับของทีม และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการพาทีมกลับสู่ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง
ในส่วนของ อาร์เซนอล การปล่อยตัว แรมส์เดล ออกไปอาจเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นโอกาสที่จะได้เงินทุนมาเสริมทัพในตำแหน่งอื่นๆ นอกจากนี้ การเซ็นสัญญากับ การ์เซีย จะช่วยรักษาความลึกของทีมในตำแหน่งผู้รักษาประตู

สรุป

ในการย้ายทีมของ แอรอน แรมส์เดล จากอาร์เซนอลไปยัง เซาแธมป์ตัน นี้ อาจมีผลต่อการคาดการณ์และการเดิมพันในอนาคต ซึ่งแฟนบอลและนักพนันอาจติดตามความเคลื่อนไหวผ่านการวิเคราะห์ ผลบอล sbobet อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ การที่เซาแธมป์ตันเสริมทัพด้วยผู้รักษาประตูใหม่ที่มีประสบการณ์สูง จะทำให้ทีมมีความมั่นคงมากขึ้นในฤดูกาลหน้า และเป็นที่น่าสนใจว่า ผลบอล sbobet จะคาดการณ์ผลงานของทีมอย่างไรในเกมที่จะมาถึง
แฟนบอลสามารถใช้ข้อมูลจาก ผลบอล sbobet เพื่อติดตามและวิเคราะห์ฟอร์มของทีม เซาแธมป์ตัน และ อาร์เซนอล โดยเฉพาะหลังการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่อาจส่งผลต่อผลการแข่งขันในอนาคต

ฟอเรสต์คว้าตัวโมเรโน่ แบ็คซ้ายจากวิลล่า มาร่วมทีมแบบยืมตัว

ฟอเรสต์คว้าตัวโมเรโน่ แบ็คซ้ายจากวิลล่า มาร่วมทีมแบบยืมตัว

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ประสบความสำเร็จในการเสริมทัพด้วยการคว้าตัว อเล็กซ์ โมเรโน่ (Alex Moreno) แบ็คซ้ายจาก แอสตัน วิลล่า มาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล พร้อมเงื่อนไขในการซื้อขาดถาวร การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวรับของ ฟอเรสต์ อย่างมีนัยสำคัญ

กองหลังชาว สเปน วัย 31 ปี ซึ่งเคยเป็นตัวเลือกแรกของ วิลล่า ได้ตกไปอยู่ในอันดับรองจากผู้เล่นใหม่อย่าง เอียน มาตเซน (Ian Maatsen) และ ลูคัส ดีญเญ่ (Lucas Digne) ในการจัดลำดับตัวจริงที่ วิลล่า ปาร์ค ทำให้เขาต้องมองหาโอกาสในการลงสนามที่มากขึ้นกับทีมอื่น

โมเรโน่ (Moreno) ย้ายมาร่วมทีม วิลล่า จาก เรอัล เบติส ใน ลาลีกา เมื่อเดือนมกราคม 2023 ด้วยค่าตัว 13.2 ล้านปอนด์ และเป็นนักเตะคนแรกที่ อูไน เอเมรี่ (Unai Emery) ดึงมาร่วมทีมหลังจากเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม วิลล่า น่าสนใจที่ว่า ก่อนหน้านี้ โมเรโน่ (Moreno) เคยมีข่าวเชื่อมโยงกับ ฟอเรสต์ มาก่อน แต่ท้ายที่สุดเขาเลือกย้ายไปอยู่กับ วิลล่า

ในฤดูกาลที่ผ่านมา โมเรโน่ (Moreno) ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 21 นัด และมีส่วนสำคัญในการพา วิลล่า จบอันดับที่ 4 ของตาราง ซึ่งทำให้ทีมได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันใน แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ผลงานของเขาในฤดูกาลที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อ ฟอเรสต์ ในการต่อสู้เพื่อรักษาอันดับใน พรีเมียร์ลีก และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรโมชั่น แทงบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

รอสส์ วิลสัน (Ross Wilson) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายฟุตบอลของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แสดงความยินดีกับการเซ็นสัญญาครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “อเล็กซ์ (Alex) เป็นนักเตะที่เราสนใจมานานแล้ว ดังนั้นเราทุกคนจึงมีความสุขมากที่ได้เห็นเขามาถึง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เขามีประสบการณ์มากมายทั้งใน ลาลีกา และ พรีเมียร์ลีก และเขาจะนำคุณภาพและประสบการณ์ทั้งหมดนั้นมาสู่ทีมของเราในตอนนี้”

การย้ายทีมของ โมเรโน่ (Moreno) มาสู่ ซิตี้ กราวด์ ไม่เพียงแต่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวรับของ ฟอเรสต์ เท่านั้น แต่ยังเพิ่มตัวเลือกที่มีประสบการณ์ให้กับผู้จัดการทีม นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต (Nuno Espírito Santo) ในการวางแผนทางยุทธวิธีสำหรับเกมที่สำคัญๆ ที่จะมาถึงในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่ากองหลัง โจ วอร์รัลล์ (Joe Worrall) ดูเหมือนจะกำลังจะออกจาก ฟอเรสต์ โดยมีทีม เบิร์นลีย์ จาก แชมเปี้ยนชิพ กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาขั้นสูงเพื่อคว้าตัวนักเตะวัย 27 ปีรายนี้ การย้ายออกของ วอร์รัลล์ (Worrall) อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างทีมของ ฟอเรสต์ เพื่อสร้างพื้นที่และงบประมาณสำหรับการเสริมทัพเพิ่มเติมในอนาคต

การเสริมทัพด้วย โมเรโน่ (Moreno) แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมเพื่อต่อสู้ในการรักษาสถานะใน พรีเมียร์ลีก ประสบการณ์ของเขาทั้งใน สเปน และ อังกฤษ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับความกดดันในช่วงท้ายฤดูกาล

นอกจากนี้ การย้ายทีมครั้งนี้ยังอาจเป็นโอกาสสำหรับ โมเรโน่ (Moreno) ในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งใน พรีเมียร์ลีก และอาจนำไปสู่การย้ายทีมแบบถาวรหากเขาสามารถแสดงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมให้กับ ฟอเรสต์ ได้

แฟนบอล น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คงจะตื่นเต้นที่จะได้เห็น โมเรโน่ (Moreno) ลงสนามในชุดของทีม และหวังว่าเขาจะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผลงานของทีมได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทีมพยายามที่จะปรับปรุงตำแหน่งของพวกเขาในตาราง พรีเมียร์ลีก
วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรโมชั่น แทงบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ป้ายต่อไปของ โรนัลโด้

ป้ายต่อไปของ โรนัลโด้

ถือว่าเป็นข่าวที่ค่อนข้างมีมูลความจริงเลยทีเดียว สำหรับยูเวนตุสหลังจากตกรอบ UCL ตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็กำลังจะมีข่าวว่าอาจจะต้องเลหลังนักเตะบางคนออกไปเพื่อระบายค่าเหนื่อย ทีมได้รับผลกระทบด้านการเงินจากวิกฤติโควิท โรนัลโด้ ก็เลยอาจจะเป็นคนหนึ่งที่โดนขายออกไปเพื่อลดภาระค่าเหนื่อย ว่าแต่หากโรนัลโด้ ย้ายจริง เค้าจะไปไหนได้บ้าง

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

หากจะต้องย้ายทีมกันจริง ทีมเดียวในโลกใบนี้ที่เรามองว่าสามารถสนับสนุนความต้องการของโรนัลโด้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็น เงินค่าเหนื่อย, การเล่นฟุตบอล, และวิถีชีวิตนอกสนามที่ไม่ลำบากจนเกินไป ก็คงต้องเป็น ปารีส เท่านั้น เรื่องเงินไม่ยาก มีเยอะ เรื่องฟุตบอลเราจะได้เห็นการประสานงานของ โรนัลโด้, เนย์มาร์, เอ็มปับเป้, อิคาร์ดี้ แค่คิดก็สยองแทนฝ่ายตรงข้ามแล้ว ชีวิตที่ย้ายจากอิตาลี มาฝรั่งเศส มันก็คงไม่ได้แตกต่างกันเท่าไร

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หากจะกลับเกาะอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงเป็นจุดหมายเดียวที่โด้ จะได้กลับมา เรื่องค่าเหนื่อยเราว่าพอสู้ไหว (แต่อาจจะไม่เท่าที่เค้าต้องการ) แต่ว่าเรื่องฟุตบอลนี่พูดยาก เพราะว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เป็นทีมที่มีองค์ประกอบพร้อมสักเท่าไรนัก การมาของโด้ หากหวังจะได้แชมป์อาจจะต้องลุ้นกันเหนื่อยโดยเฉพาะ UCL ที่แมนยูตอนนี้ยังห่างไกลทีมระดับท็อปของยุโรปเยอะเลย แม้ทุกคนจะมองว่า เค้าคือฮีโร่ในตำนานแต่คงไม่มีใครอยากให้ตำนานมาเสียชื่ออีกรอบที่นี่อย่างแน่นอน

อินเตอร์ ไมอามี่

เป้าหมายสุดท้ายที่หลายคนมองว่าไม่น่าจริง แต่ว่าความจริงก็พอมีโอกาสอยู่บ้างก็คือ อินเตอร์ ไมอามี่ของ เดวิด เบ็คแฮม หากโด้ย้ายไปในช่วงอายุนี้ ก็ทำให้เค้ายังสามารถเล่นฟุตบอลด้วยศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้อย่างสบายๆ อีกทั้งยังเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับตัวเค้าเองอีกด้วย อีกทั้งเจ้าตัวยังเคยแย้มๆว่าสนใจการข้ามไปเล่นที่สหรัฐอีกต่างหาก ถ้าไปจริงน่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเมเจอร์ลีคซอคเกอร์ได้อีกเยอะเลย บวกกับการใช้ชีวิตนอกสนามของเค้าน่าจะสะดวกสบาย ปรับตัวไม่ยากเท่าไร

เจาะประเด็นความห่วยแตก แมนยู เกมแพ้ไลป์ซิก

เจาะประเด็นความห่วยแตก แมนยู เกมแพ้ไลป์ซิก

หากจะถามว่า มันห่วยแตกแค่ไหน คงตอบได้เลยว่า มาก สำหรับเกมที่แพ้ไลป์ซิก ตกรอบ UCL จากในมือตัวเองแท้ๆเลย อย่างไรก็ตามหากมองให้ดี เกมนี้มีหลายจุดที่ความห่วยแตกมาผสมกัน จนกลายเป็นผลการแข่งขันแบบนี้ ส่วนที่ยิงได้ 2 ประตูบอกตามตรงว่า ไม่ได้มาจากแท็คติอะไรเลย มาดูความห่วยแตกของเกมนี้กันหน่อย

เล่นอุดแบบรอโดน

อย่างแรกเลย ก่อนเกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าได้เปรียบทางไลป์ซิก อยู่พอสมควรเนื่องจากว่าพวกเค้ามีแต้มมากว่า นั่นทำให้ขอเพียงแค่เสมอก็จะเข้ารอบต่อไปได้เลย ว่าแล้ว โซลชาร์ก็เลือกแท็คติค รับแบบไม่สวนกลับ หรือพูดภาษาบ้านเราว่า อุดแล้วรอโดน คำถามก็คือ หากกุนซือเป็น มูรินโญ่ อุดแล้วเราเชื่อว่าไม่รอโดน มีสวนกลับ หรือหากจะอุดให้สุด มันอุดเต็มเกม เสมอ 0-0 ได้แน่นอน แต่ไม่ใช่ไง มันคือ โซลชาร์ พอมาใช้วิธีนี้ ไลป์ซิก ก็นวดเพลินมันมือกันเลยทีเดียว แล้วอุดยังไง ครึ่งแรกโดน 3-0 แบบนี้เปิดหน้าสู้ดีกว่า

กองหน้า เห็นแก่ตัว

เกมนี้มองไปที่ความผิดพลาดส่วนบุคคลมีเยอะมากเลย เกมรับหลายคนเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่เกมรุกเองก็ต้องโดนตำหนิด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะสองกองหน้าอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด ที่เข้าลูปจังหวะนรกทั้งคู่ จังหวะจ่ายพี่แกเลี้ยง ยิงติด จังหวะควรยิงก็ไปจ่ายแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย นั่นทำให้จังหวะที่เค้าควรจะได้ประตู หรือทำอะไรมากกว่านี้ กลายเป็นไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับทีมเลย น่าเสียดายมาก

เปลี่ยนตัวแบบงงกันทั้งโลก

แต่อีกหนึ่งความห่วยแตก ที่เชื่อว่าแฟนบอลคงงงกันทั้งโลก ว่าพี่เค้าทำได้ไง ก็คือ การเปลี่ยนตัวของโซลชาร์ที่ทุกคนเข้าไม่ถึง ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนพักครึ่งเปลี่ยน ฟานเดอบีค ลงมาอันนี้เข้าใจได้เพราะว่าต้องการประตูคืน แต่เคสเปลี่ยน ลุค ชอว์ ออกนาทีที่ 61 แล้วแทนที่ด้วยแบรนดอน วิลเลี่ยม อันนีก็เข้าใจได้ แต่ว่าการเปลี่ยนกองหลังอีกสองคนลงไปในนาทีที่ 78 ในสถานการณ์ที่ต้องการประตู มันคืออะไร อันนี้ห่วยจริง

ภาพรวมประจำซีซั่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ภาพรวมประจำซีซั่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

รูดม่านปิดซีซั่นไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ พรีเมียร์ลีค ในรอบซีซั่นที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าแฟนบอลปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีทั้งสุข เศร้า เหงา ซึม ตามวิถีของแฟนบอล คราวนี้เรามาดูกันว่าภาพรวมประจำซีซั่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง

เทพเกมเยือน + เทพคัมแบ็ค

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้หากจะนิยามอะไรสักอย่าง คงเป็นคำว่า เทพเกมเยือนอย่างแน่นอน เพราะว่าตลอดซีซั่นเกมเยือนทั้งหมด 19 เกม พวกเค้าไม่แพ้เลยสักเกมเดียว เตรียมขึ้นแท่นเป็นทีมที่เล่นเกมเยือนได้ดีที่สุดตลอดกาล หากรักษาฟอร์มเกมเยือนได้ในซีซั่นหน้าอีก 1-2 เกมเท่านั้นเอง อันนี้ต้องยอมรับว่าพวกเค้าทำได้ดี

อีกหนึ่งเรื่องที่แฟนบอลอุ่นใจมาก นั่นก็คือ เทพคัมแบ็ค ซีซั่นนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่โดนนำไปก่อนแล้วกลับมาชนะได้มากครั้งที่สุด เป็นจำนวนถึง 10 เกมที่ทำได้ ยิ่งถ้าเกมไหนเล่นเกมเยือน กับโดนนำไปก่อน แฟนบอลปีศาจแดงยิ้มรอเลยว่ายังไงก็กลับมาชนะได้แน่นอน นี่เป็นคาแรกเตอร์นักสู้ที่หายไปนานมาก อย่างไรก็ตามนี่เป็นดาบสองคมเหมือนกันว่า ทำไมต้องรอให้โดนก่อนถึงจะเล่นดีด้วย บวกกับเกมในบ้านที่แพ้แบบน่าเกลียดหลายเกม คงต้องเป็นเรื่องที่ปรับปรุงกันต่อไป เล่นในบ้านให้ดี แล้วตามไปตบนอกบ้านให้ได้เท่าเดิม แมนยูจะน่ากลัวขึ้นเยอะ

อกหักนัดชิง

อีกหนึ่งก้าวที่หลายคนอาจจะมองว่าพัฒนาขึ้น แต่หลายคนมองว่าล้มเหลว นั่นก็คือ การเข้าถึงนัดชิงยูโรป้าลีค แต่แพ้ ที่ว่าพัฒนาขึ้นน่าจะเป็นการก้าวข้ามเส้นรอบรองชนะเลิศที่ซีซั่นก่อนตกรอบทุกรายการที่แข่งรอบนี้ แต่มาปีนี้พวกเค้าแข็งแกร่งพอจะก้าวไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้แล้ว น่าจะเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามการอกหักนัดชิงมันเป็นเรื่องที่ทำในได้ยากมาก ไม่เท่านั้นแท็คติค การเปลี่ยนเกม ประสบการณ์ในเกมนัดชิง โอเล่ น้อยมากคงต้องทำให้ดีกว่านี้

คุณภาพทีมแนวลึก

มาดูคุณภาพทีมกันบ้าง ชุดตัวหลักของทีมต้องยอมรับว่ายกระดับขึ้นมาได้ดี คาวานี่ เค้ามาเติมมิติเกมรุกแบบกองหน้าตัวเป้าจริงๆในแดนหน้า คู่กลางอย่าง บรูโน่ กับ ป็อกบา ก็ทำเกมได้ดี หรือจะเป็นเฟร็ด กับแม็คทอม ที่ลงคู่ หรือสลับกันลงก็ได้ กองหลังก็ไว้ใจได้ ยกเว้นเซนเตอร์แบ็คคู่กับ แมกไกรว์ อาจจะต้องหาเพิ่ม แต่ที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นคุณภาพทีมแนวลึกที่ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนตัวจริงได้เลย ยิ่งตอน แมกไกรว์ เจ็บ รู้เรื่องเลย คงต้องยกระดับตรงนี้ด้วยหากหวังจะคว้าแชมป์ลีคที่จะต้องโรเตชั่นนักเตะบ่อยๆ

นักเตะลิเวอร์พูล สอบตกจากเกมล่าสุด

นักเตะลิเวอร์พูล สอบตกจากเกมล่าสุด

เกมล่าสุด ลิเวอร์พูล แฟนบอลอาจจะบ่นว่า พวกเค้าโชคร้ายที่โดนริบประตู และ โดนจุดโทษจากการทำงานของ VAR ที่เกมนี้ทั้งหมด 4 ครั้ง มันไม่ได้เข้าข้างพวกเค้าเลยสักครั้ง แต่อีกด้านหนึ่งการที่พวกเค้าต้องมาโดนจุดโทษตีเสมอในนาทีสุดท้ายของเกม มันก็ต้องโทษความผิดพลาด และไม่เฉียบคมของนักเตะเองด้วยที่ทำประตูลูกที่ 2,3 จนปิดเกมไม่ได้เอง ส่วนหนึ่งมาจากนักเตะของพวกเค้าหลายคนสอบตกกับเกมดังกล่าว มีใครสอบตกบ้างใน

ทาคุมิ มินามิโนะ

คนแรกที่น่าผิดหวังมากกับฟอร์ม ก็คือ ทาคุมิ มินามิโนะ ที่ได้ลงสนามในฐานะตัวจริง ตำแหน่งกองกลางเกมนี้แทนที่เค้าจะฉวยจังหวะทำให้ดีที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและยึดตัวจริงให้ได้ กลับกลายเป็นว่า เค้าไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย สิ่งที่เราเห็นก็คือพอได้บอล แล้วก็ไม่สามารถเชื่อมเกมไปยังกองหน้าสามตัว หรือ คนที่อยู่ใกล้สุดอย่าง ซาลาห์ ได้เลย แถมตอนเกมรับ ก็วิ่งไล่เพรสบอลเป็นบ้า เป็นหลังเหมือนไม่ได้ซ้อมคิวกับเพื่อนอีกต่างหาก ทำเอาแฟนบอลเดอะค็อปชาวไทย แม้จะให้กำลังใจแต่ก็บ่นเซ็งกับฟอร์มการเล่นในเกมนี้ หวังว่าจะดีขึ้นในเกมต่อไป

เนโก วิลเลี่ยมส์

เกมนี้เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ ฝั่งตรงข้ามเลือกที่จะเจาะทางเจ้าหนูคนนี้ เนื่องจากกระดูกบอล ประสบการณ์น้อยกว่าใครในแผงกองหลัง แต่ก็เป็นไปตามแท็คติค อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็พยายามสู้อย่างสุดตัวเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า ไม่ใช่หมูให้เข้ามาเคี้ยวได้ง่ายๆเหมือนกัน แต่สุดท้ายเกมนี้ เนโก ก็พลาดทำเสียจุดโทษให้กับฝ่ายตรงข้ามยังดีไม่เสียประตูในจังหวะนี้ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีพลาดหลุดไปเหมือนกัน จนคล็อปป์ทนไม่ไหวต้องรีบเปลี่ยนออกช่วงต้นครึ่งหลัง เพื่อไม่ให้โดนจู่โจมจนเสียความมั่นใจไป แต่อย่างว่า น้องเค้ายังเด็กอยู่ก็ต้องใช้เวลาให้ความมั่นใจกันนิดหนึ่ง

ตรวจการบ้าน สเปอร์ส ทำอะไรไปแล้วบ้าง

ตรวจการบ้าน สเปอร์ส ทำอะไรไปแล้วบ้าง

สเปอร์ส ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่เรามองว่า ล้มเหลว และน่าผิดหวังมากจริงๆ จริงอยู่การแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ มาคุมทีมอาจจะไม่ใช่คนที่เข้ากันเท่าไร แต่มันก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่นัก จากผลงานก็ไม่ได้ขี้เหร่เลย แต่การปลดก่อนจะลงสนามนัดชิงกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือว่าน่าเกลียดทั้งวิธีการและผลลัพธ์ แถมจนถึงตอนนี้พวกเค้าเพิ่งจะได้กุนซือเป็นเรื่องเป็นราวสักที เรามาตรวจการบ้านสเปอร์สกันว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง

ผู้จัดการทีมคนใหม่

หลังจากมีข่าวกับกุนซือที่ว่างงาน และไม่ว่างงาน นับสิบคนทั่วยุโรป สุดท้าย สเปอร์ส ก็ทำการบ้านข้อแรกที่ควรจะทำเสร็จตั้งนานแล้วสักที นั่นก็คือ การตามหาผู้จัดการทีมคนใหม่ คนนั้นก็คือ นูโน่ เอสปริริโต้ ซานโต้ กุนซือคนเก่งของวูลฟ์แฮมป์ตัน ที่กว่าจะมาลงตัวคนนี้สเปอร์ส ก็หน้าแหกมาเยอะเหมือนกัน ต้องยอมรับว่ากว่าจะได้คนนี้มา มันช้าไปหน่อย อย่างไรก็ตามได้มาแล้วก็ดีกว่าไม่ได้ใครเลย

อนาคต แฮร์รี่ เคน

การบ้านข้อต่อไป เป็นการบ้านข้อที่สำคัญมากนั่นก็คือ อนาคตของดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมอย่าง แฮร์รี่ เคน ว่าจะอยู่หรือไป ตอนนี้เจ้าตัวเพิ่งจะเสร็จศึกกับทีมชาติอังกฤษในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 ก็ต้องมาดูกันว่า จะขายหรือเก็บไว้ต่อ สำคัญของข้อนี้ไม่ได้อยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่อยู่ที่ความชัดเจนจะมาตอนไหนต่างหาก หากมาไว นูโน่ กุนซือก็จะได้เดินหน้าต่อไปอย่างไร

เติมหลัง

สเปอร์ส เรื่องเกมบุกไว้ใจได้ แต่เกมรับ ก็น่าเหนื่อยใจแทนเช่นกัน หลายครั้งที่พวกเค้าพลาดชัยชนะในเกมสำคัญจากความผิดพลาดส่วนบุคคลของกองหลัง นั่นทำให้พวกเค้าต้องเติมกองหลังดีๆสักคนลงไป ตอนนี้ที่มีข่าวออกมาเป็นการซื้อกองหลังอย่างทาเคฮิโระ โทมิยาซุ กองหลังจากโบโลญญ่า ข่าวนี้ดูท่าสเปอร์สจะเอาจริงเสียด้วย เรามองว่าความคืบหน้าน่าจะมีการเจรจากันไปแล้วกว่าครึ่งทาง ก็เหลือแต่ว่าจะมาไหมแค่นั้นราคาประเมิน 20 ล้านปอนด์ ถือว่าเอาเรื่องอยู่

สรุปดาวยิง 5 ลีคใหญ่ยุโรปเวลานี้ (นับเฉพาะเกมลีค)

สรุปดาวยิง 5 ลีคใหญ่ยุโรปเวลานี้ (นับเฉพาะเกมลีค)

ตอนนี้ลีคใหญ่ของยุโรป กำลังเข้าสู่ช่วงของเกมบอลถ้วย ของประเทศตัวเอง ซึ่งจะเป็นเกมบอลถ้วยที่จะเข้าสู่ช่วงก่อนรองชนะเลิศ เกมลีคก็เลยได้พักกันไปก่อน (ใครตกรอบก่อนก็ไม่ได้แข่ง รอพักกันไป) ในช่วงพักสั้นๆแบบนี้ก็เลยมีการทำสถิติที่น่าสนใจออกมาเป็นสถิติดาวยิงสูงสุดของลีคในเวลานี้ มาดูกันว่า 5 ลีคใหญ่ยุโรปมีใครกันบ้าง

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ไปตั้งต้นที่บุนเดสลีก้า เยอรมันกันก่อน ชั่วโมงนี้ต้องยอมรับว่า ไม่มีใครร้อนแรงเกินว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ของบาเยิร์น มิวนิคอีกแล้ว จากซีซั่นก่อน ที่ยิงระเบิดจนพาทีมได้ ทริปเปิ้ลแชมป์ มาซีซั่นนี้ก็ยังโหดอย่างต่อเนื่อง สถิติบอกว่าลงเล่นไปทั้งหมด 19 เกม ทำไปทั้งหมด 24 ประตู เฉลี่ย 66 นาทีต่อ 1 ประตู นี่มันเป็นสถิติที่โหดมากแบบที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆจริง

หลุยส์ ซัวเรส

ยิงอุดปาก คงเป็นวลีที่ หลุยส์ คงอยากจะพูดเป็นภาษาไทยให้กับบอร์ดบริหารของ บาร์ซา ได้ยินเสียเหลือเกิน หากใครจำได้ ช่วงซัมเมอร์ ซัวเรส ต้องออกจากบาร์ซา แบบไม่ค่อยดีเท่าไรนัก สุดท้ายเค้าเลือก แอต.

มาดริด แล้วก็ไม่ผิดหวัง ตอนนี้ลงเล่นไป 17 เกม ทำไป 16 ประตู เฉลี่ย 80 นาทีต่อ 1 ประตู ขึ้นแท่นกลายเป็นดาวซัลโวมีสิทธิ์พา แอต.

มาดริด ขึ้นไปเถลิงแชมป์ลีคได้ด้วย

คิรียัน เอ็มปัปเป้

โกลเด้นบอย ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสอย่าง เอ็มปัปเป้ ก็คงรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้เหมือนกับ กับทีม PSG เค้าลงสนามไปทั้งหมด 20 เกม ทำไป 16 ประตู เฉลี่ย 90 นาที ต่อ 1 ประตู เป็นอีกหนึ่งกองหน้าที่โลกต้องจับตามองว่า เค้าจะไปไหนต่อเมื่อสิ้นสุดซีซั่นนี้

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

พี่โด้ ย้ายไปยูเวนตุส ในวัยไม่น้อยแล้ว แต่เค้าก็แสดงให้เห็นว่า อายุไม่ใช่ปัญหาสำหรับเค้า เค้ายังสามารถเล่นฟุตบอลได้ในระดับสูงสุดอีก เค้ายังต้องการมันอีก สังเกตได้จากสถิติลงเล่นไป 17 เกม ทำไป 16 ประตู ค่าเฉลี่ย 91 นาทีต่อประตู ถือว่าเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงมาก เราคิดว่า พี่โด้ คงไม่หยุดเพียงแค่นี้แน่

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์

สุดท้ายตัวแทนจาก พรีเมียร์ลีค เป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ คนดีคนเดิมของเหล่าเดอะ ค็อป ที่ลงสนามไป 22 เกม ทำไปทั้งหมด 16 ประตูกับค่าเฉลี่ย 115 นาทีต่อ 1 ประตู น่าเสียดายที่ผลงานดีแบบนี้ไม่พาให้ต้นสังกัดบินสูงตามไปด้วย

กองกลางที่อยากให้สอยมาแทนบรูโน่

กองกลางที่อยากให้สอยมาแทนบรูโน่

สำหรับดีลของ บรูโน่ แฟร์นันเดส ต้องขอแสดงความเสียใจล่วงหน้ากับแฟนแมนยูได้เลยว่า ดีลไม่เกิดขึ้นแน่นอน แม้ว่าตอนนี้จะมีข่าวว่า ผีขอวัดใจยื่นครั้งสุดท้ายเพื่อดึงมาให้ได้ อย่างไรก็ตามหากไม่ได้จริง ก็ยังมีกองกลางอีกหลายคนในท้องตลาดที่ฝีเท้าไม่ต่างกัน ราคาก็พอสู้ได้ สื่อได้คาดการณ์เอาไว้ส่วนหนึ่งมีใครกันบ้าง

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
พ่อมดน้อยแห่งแอนฟิลด์ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เป็นชื่อแรกที่เราขอแนะนำ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีเหมือนเดิมแม้ว่าจะเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิค อยู่ก็ตาม หากมองในเรื่องของฟุตบอล นี่เป็นดีลที่ดีเพราะเจ้าตัวไม่น่าจะได้ลงเล่นในทีมบาร์เซโลน่าแล้วกับบาเยิร์น มิวนิคก็ไม่น่าจะซื้อขาด เจ้าตัวหากมาก็จะกลายเป็นตัวจริงได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง แต่เค้าจะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานผู้ทรยศในสายตาเดอะค็อป เหมือนกับ ไมเคิล โอเว่น ถ้ายอมรับได้ก็มา  

คริสเตียน อิริกเซ่น
คนต่อไปเพลย์เมกเกอร์ ทีมชาติเดนมาร์ค ที่ส่อแววว่าลาจากทีมสเปอร์สแน่นอน อย่างไรก็ตามสัญญาณแรงมากว่าเจ้าตัวจะไปลงเอยกับอินเตอร์ มิลานในอิตาลี อย่างไรก็ตามโลกฟุตบอลไม่สามารถคาดเดาได้เลย หากแมนยูอยากจะเร่งเพื่อปิดดีลนี้โค้งสุดท้ายก็ยังพอมีหวังอยู่ ตัวนี้บอกเลยว่าถ้าได้มาไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย ฝีเท้าการันตี แฟนบอลก็โอเค ค่าตัวไม่น่าแพงมากเพราะใกล้หมดสัญญา ถ้าอยากได้ต้องรีบ

เจมส์ แมดดิสัน
คนนี้ถือว่าเป็นกองกลางที่เด่นมาของเลสเตอร์ ทำผลงานได้บินสูงในขณะนี้ บวกกับเป็นสายเลือดอังกฤษด้วยน่าจะถูกสเปคของโซลชาร์ แต่ปัญหาอยู่ที่เลสเตอร์ไม่ได้เป็นทีมหนีตกชั้น หรือขาดเงินจนต้องขายนักเตะกิน บวกกับเลสเตอร์กำลังลุ้นทำผลงานไปเล่น UCL ฤดูกาลหน้า จนถึงรอลุ้นบอลถ้วยอีกด้วย ถ้าจะเอาจริงบอกเลยว่า 100 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อย

แจ็ค กรีลิช
จอมทัพคนนี้พัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของทีมแอสตัน วิลล่าอย่างน่าภาคภูมิใจ การออกบอล การครองบอลอันเหนียเตแน่น การยิงไกล และลูกตั้งเตะ ถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน อีกทั้งการเล่นด้วยจิตใจอันกล้าหาญ น่าจะเข้ามายกระดับแผงกองกลางของแมนยูได้เลย คนนี้เชียร์เลยว่าน่าซื้อที่สุด